The Calling of Saint Matthew : การตรัสรู้ของศิลปินกับภาพยนตร์
งาน “The Calling of Saint Matthew” (การเรียกมาธิว) ของ Caravaggio เป็นผลงานศิลปะที่น่าทึ่งซึ่งเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของยุคบาร็อค แม้ว่าจะเกิดในปี 1600 ซึ่งอยู่ไกลจากศตวรรษที่ 7 แต่ภาพวาดนี้แสดงถึงความรุนแรงและความอ่อนโยนในการนำเสนอเรื่องราวทางศาสนาด้วยวิธีการที่ไม่ธรรมดา
Caravaggio เป็นจิตรกรชาวอิตาลีผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านเทคนิคการใช้แสงและเงา (chiaroscuro) ซึ่งทำให้ภาพวาดของเขาแลดูมีมิติและสมจริงเป็นอย่างมาก “The Calling of Saint Matthew” แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ Caravaggio ในการสร้างฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ และการใช้แสงช่วยในการเน้นจุดสำคัญในภาพ
ภาพวาดนี้แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่นักบุญมาธิว ผู้เป็นเจ้าหน้าที่เก็บภาษี ถูกเรียกให้เป็นสาวกของพระเยซู คริสต์ Caravaggio เลือกที่จะวาดฉากนี้ในขณะที่มันเกิดขึ้น ไม่ใช่ในภาพแบบยืนยัน หรือศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปในการนำเสนอเรื่องราวทางศาสนาในเวลานั้น
เราเห็นมาธิว กำลังนั่งอยู่กับโต๊ะพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน อีกด้านหนึ่งพระเยซูคริสต์และนักบุญเปโตรยืนอยู่เบื้องหน้า มาธิวตกใจเมื่อได้ยินพระเจ้าทรงเรียกเขา และสีหน้าของเขายังแสดงความสงสัยและลังเล
Caravaggio ใช้แสงและเงาอย่างชาญฉลาดเพื่อดึงดูดสายตาไปยังจุดสำคัญของภาพ ตัวอย่างเช่น แสงจากด้านซ้ายส่องไปที่มือของพระเยซูคริสต์ ซึ่งชี้ไปที่มาธิว การกระทำนี้แสดงถึงความเลือกของพระเจ้า และการเรียกมาธิวให้เป็นสาวก
นอกจากนั้น Caravaggio ยังใช้สีสันและลวดลายเพื่อสร้างความสมจริงให้กับภาพวาด ตัวอย่างเช่น ผืนผ้าที่คลุมโต๊ะมีรายละเอียดที่คมชัด และรอยยับบนผ้าแสดงถึงความเป็นจริงของฉาก
การตีความ “The Calling of Saint Matthew”
การตีความภาพวาดนี้สามารถทำได้หลายแบบ:
-
การเรียกร้องสู่การเปลี่ยนแปลง: “The Calling of Saint Matthew” สามารถมองเห็นเป็นการแสดงถึงความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงในชีวิต การถูกเรียกให้เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์หมายถึงการละทิ้งชีวิตเก่าและรับใช้พระเจ้า
-
ความสงสัยและความเชื่อ: ภาพวาดนี้ยังแสดงถึงความย้อนแย้งระหว่างความสงสัยและความเชื่อ มาธิวแสดงสีหน้าที่แสดงความลังเล แต่เขายังคงหันไปฟังพระเยซูคริสต์ ซึ่งบ่งบอกถึงความโน้มเอียงที่จะเชื่อ
-
ความเป็นจริงของชีวิต: Caravaggio เป็นจิตรกรผู้เชี่ยวชาญในการสร้างภาพวาดที่มีความสมจริง และ “The Calling of Saint Matthew” ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ตัวอย่างเช่น มาธิวและเพื่อนร่วมงานของเขาไม่ได้ถูกแสดงในลักษณะที่อุดมคติ แต่เป็นบุคคลธรรมดาที่กำลังทำงาน
เทคนิคการวาดภาพของ Caravaggio
Caravaggio เป็นจิตรกรผู้เชี่ยวชาญในการใช้เทคนิค chiaroscuro ซึ่งหมายถึงการใช้แสงและเงาเพื่อสร้างความลึกและมิติให้กับภาพวาด เทคนิคนี้ทำให้ภาพวาดของ Caravaggio ดูสมจริงเป็นอย่างมาก และช่วยดึงดูดสายตาไปยังจุดสำคัญของภาพ
นอกจาก chiaroscuro แล้ว Caravaggio ยังใช้เทคนิคการวาดภาพแบบ naturalism ซึ่งหมายถึงการวาดภาพให้เหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาเลือกที่จะวาดบุคคลที่เป็นชาวบ้านและแสดงพวกเขาในท่าทางและอารมณ์ที่สมจริง
Caravaggio ใช้สีสันที่เข้มข้น และลวดลายที่คมชัดเพื่อสร้างความสมจริงให้กับภาพวาดของเขา ตัวอย่างเช่น ใน “The Calling of Saint Matthew” เราสามารถเห็นรายละเอียดของผ้าที่คลุมโต๊ะ การรอยยับของผ้า และสีของผิวหนังของบุคคล
ผลกระทบของ “The Calling of Saint Matthew”
“The Calling of Saint Matthew” เป็นภาพวาดที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปะยุโรป ผลงานของ Caravaggio ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินคนอื่นๆ ในยุคต่อมา และเทคนิคการใช้แสงและเงาของเขายังคงได้รับการยกย่องในหมู่นักวิจารณ์ศิลปะ
ภาพวาดนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของศิลปะบาร็อค ซึ่งเน้นความสมจริง ความรุนแรง และอารมณ์ “The Calling of Saint Matthew” เป็นผลงานที่แสดงถึงความสามารถของ Caravaggio ในการสร้างภาพวาดที่ทั้งสวยงามและทรงพลัง
ตารางเปรียบเทียบเทคนิคการวาดภาพของ Caravaggio กับศิลปินยุคเรเนซองส์:
เทคนิค | Caravaggio | ศิลปินยุคเรเนซองส์ (เช่น Leonardo da Vinci) |
---|---|---|
Chiaroscuro | ใช้เพื่อสร้างความลึกและมิติ | ใช้ในระดับที่น้อยกว่า |
Naturalism | เน้นความสมจริง | มักจะเน้นอุดมคติ |
สีสัน | เข้มข้น และคมชัด | อ่อนหวาน และมีโทนสีที่หลากหลาย |
“The Calling of Saint Matthew” เป็นภาพวาดที่น่าทึ่งซึ่งแสดงถึงความสามารถของ Caravaggio ในการสร้างภาพวาดที่ทั้งสวยงามและทรงพลัง ภาพวาดนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของศิลปะบาร็อค และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินในปัจจุบัน
สรุป: “The Calling of Saint Matthew” เป็นผลงานศิลปะที่สำคัญซึ่งแสดงถึงความสามารถของ Caravaggio ในการสร้างภาพวาดที่มีความสมจริง ความรุนแรง และอารมณ์ การใช้เทคนิค chiaroscuro และ naturalism ช่วยให้ Caravaggio สร้างฉากที่น่าจดจำ และทำให้ภาพวาดนี้เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของศิลปะยุโรป